ยังติดลมจากหนังสือเล่มก่อนหน้า ที่ชื่อว่า “ปัญญาอิตาลี” เลยไปคว้าหนังสือเล่มนี้มาอ่านต่อครับ มีชื่อว่า “ลีลาอิตาลี” หรือ “Italy Crafted” จากสำนักพิมพ์ OpenBooks เช่นกัน แต่ “ลีลาอิตาลี” นี้ เขียนโดย คุณพลอย จริยะเวช
ประสบการณ์
“ลีลาอิตาลี” นี้ต่างจากหนังสือ “ปัญญาอิตาลี” ของคุณภิญโญ เยอะเลยนะครับ เพราะว่า “ลีลาอิตาลี” เป็นหนังสือ เชิงท่องเที่ยวมากกว่า … แต่ อย่าเข้าใจผิดนะ มันไม่ใช่หนังสือ แนะนำว่า ขึ้นรถไฟตรงไหน รถเมล์สายไหนนะครับ … “ลีลาอิตาลี” เหมือนเป็นการเล่าประสบการณ์ และความคิดจากสิ่งและสถานที่ที่ผู้เขียน ที่ไปอิตาลีมาแล้วประมาณ 20 ครั้ง ประสบมา
จริง ๆ อ่านเพลินมากเลยนะครับ เล่มนี้ เบา ๆ ดี อ่านไป จินตนาการตามไป … นี่ขนาดส่วนตัวเราไปอิตาลีมาแล้วสามครั้ง ยังรู้สึกเหมือนว่า ยังไม่เคยไปเลย ฮะฮะ
สิ่งที่ได้จาก “ลีลาอิตาลี” นะครับ เราอ่านไปแล้ว คิดตามไปได้เลยว่า แต่ละพื้นที่ แต่ละภูมิภาคของอิตาลีนั้น มีวิถีชีวิต มีงานฝีมือที่แตกต่างกันไป สอดคล้องตามบริบทของตนเอง
ซิซิลี
จากซิซิลี (Sicily) ที่ได้รับอิทธิพลจากการถูกปกครองโดยอาหรับมาก่อน ก็มีอาหารการกิน งานคราฟต์ งานกระเบื้องที่สดใสสุนทรีย์
ปุลเญีย
ไปอีกหน่อย แถบแคว้นที่ชื่อว่า ปุลเญีย หรือ Puglia (บอกตามตรง ไม่เคยได้ยินมาก่อน) ที่ที่เป็นดินแดนที่ถือว่าแห้งแล้งที่สุด ก็มีสภาพที่อยู่อาศัยและอาหารที่ต่างออกไป พาสต้าที่ไม่ผสมไข่ เพราะแพง พาสต้าที่ทำไม่เรียบ ให้เปรียบเสมือนว่าได้กินเนื้อสัตว์ มีสเน่ห์และสะท้อนความแห้งแล้งและยากจนออกมาได้
แต่ Puglia แห่งนี้ มีวัฒนธรรมที่ พออ่านแล้ว คิดอิจฉาอยู่ไม่น้อย คือ วิถีที่เค้าเรียกว่า “ลา พัสเซจจาตา” หรือ La Passeggiata ครับ … โดยหลังอาหารมื้อเย็นแล้ว ชาวเมืองนี้ จะออกจากบ้านมา หากาแฟดื่ม จิบอัลกอฮอล์ เดินเล่นกับครอบครัว พบเพื่อนฝูง คุยกันสนุกสนาน … ถือว่า เป็นช่วงเวลาผ่อนคลาย ที่เป็นการพักจิตใจ ของชาวเมืองที่เศรษฐกิจอาจจะไม่ดีเท่าเมืองอื่น ๆ
ด้วยความที่พื้นที่ตรงนี้ ไม่ได้ร่ำรวยมาก งานฝีมือ งานคราฟต์ ก็เหมือนกับอาหาร คือ เป็นไปอย่างตามมีตามเกิด ใช้วัสดุที่พอหาได้ ทำให้มีงานประเภท เปเปอร์มาเช่ กลายเป็นจุดเด่นของที่นี่ ในเมืองเลชเช (Lecce) ไป ในราคาที่ไม่แพง
คัมปาเนีย
จากความอัตคัดในแคว้น Puglia ก็มาอีกขั้วนึงเลยครับ ณ แคว้นคัมปาเนีย (Campania) ที่มีดินแดน ติดทะเลที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น โพสิตาโน (Positano) และ อมาลฟี (Amalfi) … ไปเรื่อย ๆ จนถึง โซเรนโต (Sorrento) และคาปรี (Capri)
ดินแดนระแวกนี้ ก็จะมีลีลางานคราฟต์ไปอีกแบบหนึ่ง เช่น ความสดใส สนุกสนานของงานโมเสก งานเซรามิก และงานกระเบื้อง แถมยังมีการผลิตกระดาษในรูปแบบของตัวเองด้วย … ในส่วนของอาหารก็ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะอาหารทะเล และเครื่องดื่มและขนมที่ได้จากมะนาวเลมอนเลิศรส มาเป็นส่วนผสม
กรุงโรม
จากนั้น ผู้เขียนพาเราเข้าสู่กรุงโรมครับ … คงไม่ต้องเล่าเยอะ แต่ดูเหมือนสิ่งที่ผู้เขียนประทับใจเป็นพิเศษคือ กาแฟที่นี่ ที่มีรสชาติไม่เหมือนที่อื่น ด้วยเหตุผลคือ น้ำครับ
กาแฟที่กรุงโรม โดยเฉพาะร้านดัง ๆ นั้น ได้น้ำแร่ที่ทหารโรมันค้นพบเป็นพัน ๆ ปีมาแล้ว และยังได้มีการสร้างช่องทางลำเลียงน้ำนี้กลัยมาที่กรุงโรมด้วย (น้ำพุเทรวี่ ก็มีน้ำจากที่นั่นแหละ)
ในกรุงโรมนะ เราก็ไม่อาจจะทิ้งเรื่องของงานฝีมือไปได้ เพราะเป็นธีมของ “ลีลาอิตาลี” นี้ … แน่นอนครับ ศิลปินต่าง ๆ ภาพวาด ไปจนถึงร้านหนังสือ และตลาดของเก่า เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวมักไปไม่ถึง แต่ ณ โรมแห่งนี้ ได้ซ่อนสิ่งพวกนี้เอาไว้ ให้เราได้เสาะหาอยู่ทั่วไป …
ส่งท้าย
ก่อนไป ขอปิดท้ายด้วย Quote นึงของ Julius Caesar ละกัน ให้เข้าบรรยากาศโรมันหน่อย
“Veni, vidi, vici. I came; I saw; I conquered.”